อำเภอหนองหญ้าไซ
เป็นอำเภอที่อยู่เหนือขึ้นไปจาก อำเภอดอนเจดีย์ อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของนักเดินทางท่องเที่ยวมากนัก เป็นอำเภอที่ค่อนข้างสงบเงียบ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ทำนาทำสวนทำไร่ เลี้ยงสัตว์ และทอผ้า
ภาพชีวิตของที่นี่จึงเป็นภาพชีวิตของชนบทเมืองสุพรรณ ที่ไม่แตกต่างกับภาพเมื่อหลายสิบปีก่อน
และที่อำเภอหนองหญ้าไซแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ที่มีเรื่องราว ของวัฒนธรรมสมัยโบราณ ที่มีอายุหลายพันปี ให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา ค้นหาประวัติศาสตร์ ที่ถูกฝังอยู่ใต้พื้นดินมานานนับหลายชั่วอายุคน
.... แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร .....ชุมชนร่วมรัฐในการอนุรักษ์และพัฒนา
แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร จังหวัดสุพรรณบุรี
แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร อยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลหนองราชวัตร อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ถูกค้นพบโดย นายวิมล อุบล เจ้าของที่ดิน จากการขุดปรับหน้าดินเพื่อทำการเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2546 และได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองราชวัตรทราบ จากนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลหนองราชวัตรได้แจ้งให้สำนักงานศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรีทราบ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตร อยู่ในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลหนองราชวัตร อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ถูกค้นพบโดย นายวิมล อุบล เจ้าของที่ดิน จากการขุดปรับหน้าดินเพื่อทำการเกษตรกรรม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2546 และได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลหนองราชวัตรทราบ จากนั้นองค์การบริหารส่วนตำบลหนองราชวัตรได้แจ้งให้สำนักงานศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรีทราบ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
จากการดำเนินการตรวจสอบแหล่งโบราณคดีดังกล่าวในเบื้องต้น
โดยนายเขมชาติ เทพไชย ผู้อำนวยสำนักงานศิลปากรที่ 2
สุพรรณบุรี (ขณะนั้น) และนางสาวสุภมาศ ดวงสกุล
นักโบราณคดี ได้พบหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมาก ได้แก่
ชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ชิ้นส่วนกระดูกสัตว์ขวานหินขัด
ชิ้นส่วนภาชนะดินเผารูปทรงต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้พบชิ้นส่วนขาภาชนะดินเผาที่มีรูปแบบเฉพาะที่เรียกว่า “หม้อสามขา” อย่างที่เคยพบในแหล่งโบราณคดีบ้านเก่า
จังหวัดกาญจนบุรี และแหล่งโบราณคดีแจงงาม อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี
ผลจากการขุดค้นแสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มคนเข้ามาอยู่อาศัยใช้ประโยชน์ที่เนินดินนี้
2 สมัยใหญ่ๆ ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องทิศทางฝังศพ
เมื่อพิจารณาโบราณวัตถุต่างๆ ที่พบในชั้นดินของแต่ละสมัย
ทำให้สามารถกำหนดอายุสมัยแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ในเบื้องต้นได้ดังนี้ สมัยแรก
พบโบราณวัตถุที่ฝังร่วมกับศพและในพื้นที่อยู่อาศัยหลายชนิด เช่น ขวานหินกะเทาะ
ขวานหินขัด กำไลหิน และภาชนะดินเผา
โดยเฉพาะการพบขาหม้อสามขาทำให้สามารถกำหนดอายุโดยเทียบเคียงได้กับที่แหล่งโบราณคดีบ้านเก่า
จ.กาญจนบุรี ที่เคยมีการกำหนดอายุไว้แล้วว่าอยู่ใน สมัยหินใหม่ อายุราว 4,000
- 3,500 ปีมาแล้ว
โดยชุมชนที่เข้ามาอยู่อาศัยที่นี่นั้นเริ่มทำการเพาะปลูกมาตั้งแต่แรกเนื่องจากได้พบแกลบข้าวปะปนในเศษภาชนะดินเผาของสมัยนี้ด้วย
สมัยที่สอง โบราณวัตถุจำพวกข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ยังคงคล้ายคลึงกับสมัยแรก
แต่มีข้อสังเกตคือ สมัยที่สองจะนิยมใช้ขวานหินขัดมากกว่าหินกะเทาะ
และเริ่มพบขวานหินขัดแบบมีบ่าด้วย รูปแบบหม้อสามขาก็หลากหลายมากขึ้น
อีกทั้งยังไม่พบโลหะในที่นี้เลย
จึงกำหนดอายุสมัยที่สองนี้อยู่ในสมัยหินใหม่ตอนปลาย ราว 3,500-2,500 ปีมาแล้ว
รูปแบบหม้อสามขาในสมัยแรกของที่นี่นั้นมีลักษณะพิเศษแตกต่างไปจากที่บ้านเก่า
และแหล่งอื่นๆ ในไทย
โดยมีขาอ้วนป้อมคล้ายคลึงกับที่พบในวัฒนธรรมลุงชานของจีนที่เป็นต้นแบบภาชนะประเภทนี้มากกว่า
อีกทั้งในสมัยที่สองยังได้พบว่ามีการพัฒนารูปแบบภาชนะหม้อสามขาให้หลากหลายมากขึ้น
โดยที่หม้อรูปแบบเดียวกับที่บ้านเก่าซึ่งเป็นพิมพ์นิยมในไทยนั้นก็ได้พบในสมัยที่สองนี้ด้วย
จึงนำไปสู่ข้อสันนิษฐานว่า
แหล่งโบราณคดีหนองราชวัตรอาจจะเป็นชุมชนเกษตรกรรมยุคหินใหม่ระยะแรกๆ
ในลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง
ที่มีกลุ่มชนภายนอกจากทางตอนใต้ของจีนเคลื่อนย้ายลงมาผสมผสานแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมโดยมี
“หม้อสามขา” เป็นภาชนะแบบพิเศษของคนกลุ่มนี้
จนผสมกลมกลืนกับคนในท้องถิ่นเดิมพัฒนารูปแบบภาชนะให้ส่วนขาเรียวแหลมเหมาะแก่การใช้งานมากขึ้น
เราจึงได้พบรูปแบบหม้อสามขาแบบหลังนี้แพร่หลายทั่วไปในแหล่งโบราณคดีในที่ราบลุ่มแม่น้ำแควน้อย-แควใหญ่
และอีกหลายแหล่งในคาบสมุทรภาคใต้
แหล่งโบราณคดีแห่งนี้จัดเป็นแหล่งโบราณคดียุคหินใหม่ ที่ เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี
แหล่งโบราณคดีแห่งนี้จัดเป็นแหล่งโบราณคดียุคหินใหม่ ที่ เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น